ลดการสัมผัสก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในที่พัก

การสัมผัสก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) จะทำให้ได้รับพิษ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เครื่องตรวจจับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ออกแบบมาเพื่อแจ้งเตือนคุณเมื่อพบก๊าซดังกล่าวในระดับสูง

เราขอแนะนำให้เจ้าของที่พักทุกคนเข้าใจถึงความเสี่ยงของการสัมผัสก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับเพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าพัก หากมีที่พักที่เปิดให้บริการอยู่ ก็ขออุปกรณ์ตรวจจับจาก Airbnb ได้ 1 เครื่อง

ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นก๊าซที่ไร้สีไร้กลิ่น เครื่องใช้ในครัวเรือนที่ใช้เชื้อเพลิงประเภทนี้ เช่น เตาผิง เตาอบ เครื่องทำน้ำร้อน และเครื่องปั่นไฟแบบพกพาจะผลิตก๊าซ CO ออกมา เตาถ่านและเตาฟืนก็จัดอยู่ในประเภทนี้ด้วย

เมื่ออยู่ในที่ร่มหรือพื้นที่ปิดอื่นๆ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะเกิดการสะสม ซึ่งเป็นพิษต่อผู้คนและสัตว์เลี้ยงที่สูดดมก๊าซนั้นเข้าไป การได้รับก๊าซดังกล่าวในปริมาณสูงอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ก๊าซนี้เป็นคนละชนิดกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือ _CO2 ซึ่งนำไปใช้ในน้ำอัดลมและถังดับเพลิง

ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จะตรวจจับไม่ได้หากไม่มีอุปกรณ์ การติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์อย่างน้อย 1 เครื่องจะช่วยแจ้งเตือนผู้เข้าพักและคนอื่นๆ รวมถึงคุณและครอบครัวได้ หากพบก๊าซดังกล่าวในระดับที่ไม่ปลอดภัย

อุปกรณ์ตรวจจับควันธรรมดาจะนำมาใช้แทนเครื่องตรวจจับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ไม่ได้ แต่อาจใช้ร่วมกันได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ อ่านฉลากของผู้ผลิตที่จะติดตั้งอย่างละเอียด

ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์อาจเกิดขึ้นได้ หากที่พักมีคุณลักษณะหรือสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้:

• เครื่องใช้ในครัวเรือนที่ใช้ถ่าน น้ำมันเบนซิน น้ำมันก๊าด ก๊าซมีเทน ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน โพรเพน หรือฟืนเป็นเชื้อเพลิง

• โรงรถติดตัวบ้าน แม้ว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นในที่พักจะเป็นแบบใช้ไฟฟ้า

• เครื่องปั่นไฟที่ใช้งานในจุดที่ใกล้กับประตูหรือหน้าต่าง

• เตาแก๊สหรือเตาถ่านที่ใช้งานในจุดที่ใกล้กับประตูหรือหน้าต่าง

• เตาผิง

ผู้เชี่ยวชาญอย่าง International Association of Fire Chiefs แนะนำให้ติดตั้งเครื่องตรวจจับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในแต่ละชั้นของที่พัก

สมาคมนักดับเพลิงนานาชาติ (IAFC) แนะนำให้ปฏิบัติตามขั้นตอนเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการสัมผัสก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ดังต่อไปนี้

1. ทดสอบสัญญาณเตือนภัยทุกเดือนว่าใช้งานได้อยู่ ปกติแล้วจะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุก 1, 5 หรือ 10 ปี เช็ควันผลิตที่ด้านหลังของสัญญาณเตือนภัย และอ่านคำแนะนำในคู่มือผลิตภัณฑ์

2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าตามกฎระเบียบท้องถิ่นและคำแนะนำของของผู้ผลิต เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทใช้เชื้อเพลิงโดยส่วนใหญ่ควรให้มืออาชีพเป็นผู้ติดตั้ง

3. ควรทำความสะอาดและตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้เชื้อเพลิงเป็นประจำ เช่น เตาผิง เตาอบ เครื่องอบผ้า และปล่องไฟหรือช่องระบายอากาศ จะได้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ทำงานเป็นปกติ ระบายอากาศได้ดี และไร้รอยแตก สนิม หรือคราบเปื้อน

4. เช็คปล่องหรือท่อของอุปกรณ์ให้เป็นกิจวัตร เช่น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าในส่วนนั้นของเครื่องทำน้ำอุ่น เตาทำอาหาร และเครื่องอบผ้ายังคงเปิดโล่ง ไม่มีสิ่งกีดขวาง

5. เปิดวาล์วหรือช่องระบายอากาศจนสุดเมื่อใช้เตาผิงหรือเครื่องทำความร้อนจากการเผาไม้หรือเชื้อเพลิงอัดเม็ด อย่าปิดช่องระบายอากาศจนกว่าไฟจะดับสนิท

6. ให้คำแนะนำที่ชัดเจนแก่ผู้เข้าพัก ระบุข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับวิธีใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ของที่พักอย่างปลอดภัยในคู่มือที่พัก วางสำเนาไว้ในจุดที่ผู้เข้าพักจะหาเจอได้ง่าย เช่น โต๊ะกลางหรือเคาน์เตอร์

7. แจ้งเบอร์โทรฉุกเฉินให้ผู้เข้าพักทราบ เช่น หน่วยดับเพลิงในพื้นที่ สถานีตำรวจ และโรงพยาบาลใกล้เคียง

การระบุว่าที่พักมีเครื่องตรวจจับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จะช่วยให้ผู้เข้าพักเห็นว่าคุณใส่ใจเรื่องความปลอดภัย เพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ติดตั้งลงในส่วนอุปกรณ์ความปลอดภัยในหน้าที่พัก ข้อมูลที่ให้ไว้จะปรากฏในหน้าที่พักและในอีเมลที่ผู้เข้าพักจะได้รับก่อนเช็คอิน

ผู้เข้าพักที่มองหาที่พัก Airbnb ยังกรองหาที่พักที่มีเครื่องตรวจจับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ได้ด้วย การติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวและอัพเดทที่พักไม่เพียงช่วยเพิ่มความปลอดภัย ยังช่วยเพิ่มยอดจองได้อีกด้วย

บทความนี้แสดงคำแนะนำด้านความปลอดภัยทั่วไป ไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมด โปรดคำนึงถึงคุณลักษณะเฉพาะของที่พัก รวมทั้งปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและอัคคีภัยในท้องถิ่น

ข้อมูลในบทความนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากเผยแพร่