คำแนะนำจะปรากฏหลังจากพิมพ์คำค้นหา กดลูกศรขึ้นและลงเพื่อรีวิว กด Enter เพื่อเลือก หากเลือกวลี ระบบจะค้นหาด้วยวลีดังกล่าว หากคำแนะนำเป็นลิงค์ เบราว์เซอร์จะนำไปยังหน้าดังกล่าว
คำแนะนำจะปรากฏหลังจากพิมพ์คำค้นหา กดลูกศรขึ้นและลงเพื่อรีวิว กด Enter เพื่อเลือก หากเลือกวลี ระบบจะค้นหาด้วยวลีดังกล่าว หากคำแนะนำเป็นลิงค์ เบราว์เซอร์จะนำไปยังหน้าดังกล่าว

3 วิธีดึงดูดเกสต์

ตรวจสอบสถานะว่าง ราคา และพื้นที่ให้บริการ
โดย Airbnb วันที่ 22 ก.ย. 2025

การเสนอตัวเลือกที่ยืดหยุ่นขึ้นจะช่วยให้ลิสติ้งปรากฏในผลการค้นหามากขึ้น ดึงดูดเกสต์ให้มากที่สุดโดยขยายพื้นที่ให้บริการ รวมถึงเสนอราคาและเวลาทำการที่หลากหลาย

วิธีจัดการสถานะว่าง

อย่าลืมเพิ่มเวลาทั้งหมดที่โฮสต์ได้ เมื่อแก้ไขสถานะว่าง ให้เพิ่มเวลาทำการและเลือกช่วงเวลาที่ว่าง เกสต์จะค้นหาบริการได้ถ้ามีทั้ง 2 อย่างนี้

ในแท็บลิสติ้ง:

  • ตั้งเวลาทำการ เวลาทำการคือเวลาที่เกสต์เห็นว่าคุณว่างและจองบริการได้ จะตั้งเวลาเดียวกันทุกข้อเสนอ หรือคนละเวลาก็ได้ ลองดูช่วงเวลายอดนิยม เช่น เทรนเนอร์ส่วนตัวอาจได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงเช้า ส่วนเชฟส่วนตัวอาจได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงเย็น
  • ระบุช่วงเวลาที่ว่าง เลือกได้ว่าจะเปิดให้จองล่วงหน้า 3, 6, 9, 12 หรือ 24 เดือน โดยคุณกำหนดช่วงเวลาที่ต่างกันสำหรับแต่ละข้อเสนอได้

ในปฏิทิน:

  • ปรับสถานะว่าง จะเพิ่มเวลานอกเวลาทำการปกติหรือบล็อคช่วงเวลาที่ไม่สะดวกให้บริการก็ได้ เวลาที่บล็อคไว้จะมีผลกับทุกข้อเสนอ
  • ซิงค์ปฏิทิน เชื่อมต่อปฏิทิน Airbnb กับ Google กิจกรรมทั้งหมดที่มีในปฏิทิน Google จะบล็อคเวลาเดียวกันในปฏิทิน Airbnb

พอทำเสร็จ ให้ดูตัวอย่างหน้าลิสติ้งเพื่อยืนยันสถานะว่างและเช็คว่าเกสต์เห็นอะไรบ้าง

ไปที่แท็บลิสติ้งเพื่อแก้ไขเวลาทำการและช่วงเวลาที่ว่าง

การตั้งราคาที่แข่งขันได้

แนะนำให้เสนอราคาอย่างน้อย 3 ระดับ ได้แก่ ราคาเริ่มต้น มาตรฐาน และพรีเมียม เพื่อให้แข่งขันได้และดึงดูดเกสต์ได้มากขึ้น การเสนอราคาที่หลากหลายอาจช่วยเพิ่มรายได้และรีวิวได้ ตัวอย่างเช่น เกสต์มักจะยอมจ่าย 52-95 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับอาหาร 3 คอร์ส, 54-96 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับการทำสปา หรือ 46-75 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับการถ่ายรูป*

  • เสนอราคาเริ่มต้น เกสต์จะเห็นราคาที่ถูกที่สุดในผลการค้นหา ข้อเสนอเริ่มต้นจะช่วยดึงดูดเกสต์รายใหม่และชวนให้สนใจข้อเสนออื่นๆ ของคุณได้
  • เสนอราคาแบบกำหนดเอง ส่งข้อเสนอที่กำหนดเองพร้อมคำขอให้ชำระเงินในแท็บข้อความก่อนที่เกสต์จะจอง ตัวอย่างเช่น หากคุณเสนอการออกกำลังกายกับเทรนเนอร์ส่วนตัว เกสต์อาจถามว่าจะเทรนในช่วงเช้าตรู่หรือนอกพื้นที่ให้บริการได้หรือไม่
  • ปรับราคาให้เหมาะกับแต่ละคน ส่งการปรับราคาให้เกสต์ผ่านแท็บข้อความหลังจองได้ ตัวอย่างเช่น เกสต์อาจต้องการปรับข้อเสนอโดยเพิ่มการทำเล็บแบบฝรั่งเศสในการทำเล็บ หรือเพิ่มส่วนผสมบางชนิดในอาหาร
  • เพิ่มราคาขั้นต่ำ หากคุณตั้งราคาต่อคน ก็ตั้งราคาขั้นต่ำต่อการจองได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับบริการที่มักจัดเป็นกลุ่ม เช่น บริการจัดเลี้ยงหรืออาหารปรุงสำเร็จ เช่น หากเกสต์ต้องการจองข้อเสนอ 50 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับ 2 คน แต่คุณกำหนดราคาขั้นต่ำไว้ที่ 120 ดอลลาร์สหรัฐ เกสต์จะต้องจ่าย 120 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อจอง
  • เสนอส่วนลด เพิ่มส่วนลดแบบจำกัดเวลา ส่วนลดสำหรับผู้ที่จองล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ และส่วนลดสำหรับกลุ่มใหญ่เพื่อดึงดูดให้เกสต์จอง เมื่อใช้ส่วนลด เกสต์จะเห็นราคาเดิมแบบขีดฆ่าในผลการค้นหาและหน้าลิสติ้ง
เลือกสร้างข้อเสนอแบบกำหนดเองได้หากเกสต์มีคำขอพิเศษ

ขยายพื้นที่ให้บริการ

พิจารณาอีกครั้งว่าคุณจะไปหาเกสต์ เกสต์จะมาหา หรือทั้ง 2 อย่าง หากให้เกสต์มาหา โปรดทราบว่าเกสต์จะหาคุณเจอก็ต่อเมื่อค้นหาบริการใกล้กับที่ตั้งของคุณเท่านั้น

หากคุณจะไปหาเกสต์:

  • พิจารณาพื้นที่ให้บริการ หากต้องการให้ปรากฏในผลการค้นหามากขึ้น อย่าลืมเพิ่มเมือง ย่าน หรือรหัสไปรษณีย์ทั้งหมดลงในพื้นที่ให้บริการ
  • ระบุความยืดหยุ่น ระบุพื้นที่ที่คุณยินดีเดินทางไปเป็นครั้งคราวในคำบรรยายลิสติ้ง หรือให้เกสต์ติดต่อหาคุณได้หากอยู่นอกพื้นที่ให้บริการ

หากให้เกสต์มาหา:

  • ยืนยันที่อยู่ เกสต์ที่ดูลิสติ้งจะเห็นระยะทางและเวลาที่ใช้เดินทางไปยังสถานที่ของคุณ
  • ระบุชื่อธุรกิจ เกสต์จะได้หาเจอเมื่อมาถึง
  • เพิ่มรูปที่ถ่ายโดยช่างภาพมืออาชีพ ไม่ว่าจะโฮสต์ในสปา ห้องออกกำลังกาย ร้านเสริมสวย หรือที่อื่นๆ รูปสถานที่จะช่วยให้เห็นคุณภาพของบริการและช่วยให้เกสต์หาเจอ

*อ้างอิงจากการสำรวจออนไลน์ในเดือนมีนาคม 2025 จากเกสต์ Airbnb และผู้สนใจจองครั้งแรกในสหรัฐอเมริกากว่า 700 คน

ประสบการณ์ของผู้ใช้อาจแตกต่างกันไปตามพื้นที่ ข้อมูลในบทความนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากเผยแพร่

Airbnb
22 ก.ย. 2025
ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม?